ความรุนแรงของโรคพาร์กินสัน
1.ในสมัยก่อนที่จะมีการค้นพบยารักษาโรคพาร์กินสัน ผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 25%จะเสียชีวิตภายใน 5 ปี ประมาณ 65% จะเสียชีวิตภายใน 10 ปี และ 90% จะเสียชีวิตภายใน 15 ปี หรือโดยเฉลี่ย ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอัตราตายมากกว่าคนปกติ 3 เท่าเมื่อเปรียบ เทียบในขณะที่มีอายุเท่ากัน และเป็นเพศเดียวกัน การใช้ยารักษาโรคพาร์กินสันจะช่วยทำให้ผู้ป่วยมีชีวิตอยู่ได้นานขึ้นเพิ่มอีกหลายปี และลดอัตราตายลงได้ประมาณ 50%
2.ธรรมชาติของโรคนี้คือ อาการของผู้ป่วยจะพัฒนารุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยที่การรักษาด้วยยาจะช่วยลดอาการต่างๆได้ดีเฉพาะในช่วงแรก แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 4-5 ปี ผู้ ป่วยจะเริ่มไม่ตอบสนองต่อยา แม้จะใช้ยาในปริมาณสูงและหลายชนิด แต่ในที่สุดอาการก็จะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆจนเสียชีวิต
ควรดูแลตนเองอย่างไร? ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
การดูแลตนเอง และการพบแพทย์ในโรคพาร์กินสัน คือ
1.ผู้ป่วยต้องพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ
2.ไม่ควรปล่อยให้ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันอยู่คนเดียว เนื่องจากผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงจะมีโอกาสหกล้มได้ตลอดเวลา และคนใกล้ชิดควรสังเกตความผิดปกติของผู้ป่วย ไม่แต่เฉพาะเรื่องของกายภาพ แต่ต้องสังเกตอารมณ์และสภาพจิตใจด้วย เนื่องจากอาการทางจิตประสาทบางอย่าง เช่น ภาวะซึมเศร้า อาจทำให้อาการที่เป็น Bradykinesia ดูเหมือนแย่ลง (ซึ่งจริงๆแล้วอาการทางระบบสั่งการไม่ได้แย่ลง แต่เพราะภาวะซึมเศร้าทำให้ดูเหมือนยิ่งเคลื่อนไหวตัวช้าลง) หากได้ยารักษาภาวะซึมเศร้า อาการดังกล่าวก็จะดีขึ้น
3.ภายในบ้านที่มีผู้ป่วยโรคพาร์กินสัน ควรปรับปรุงสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมตามสภาพอาการ และเพื่อให้ปลอดภัยต่อการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การมีราวสำหรับจับเดินเป็นระยะๆ พื้นสำหรับเดินต้องไม่ลื่น ต้องไม่มีของระเกะระกะกีดขวางทางเดินในบ้าน ช้อน ส้อมและแก้วน้ำที่ใช้ควรมีที่สำหรับจับขนาดใหญ่ เก้าอี้อาจเป็นแบบมีสปริงสำหรับช่วยยกตัวเวลาลุกขึ้นได้ แต่ต้องมั่นคง ไม่โยกเยกล้มง่าย การติดเครื่องช่วยขยายเสียงเวลาพูด เป็นต้น
4.แม้จะมีข้อมูลว่าการดื่มกาแฟ การสูบบุหรี่ การใช้ฮอร์โมนเอสโตรเจน(ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน) จะช่วยลดการเกิดโรคพาร์กินสันได้ แต่ก็ไม่แนะนำ เพราะมีโทษทำให้เกิดโรคอื่นๆ ที่น่ากลัวเป็นอันตรายต่อชีวิตได้มากกว่า
ป้องกันโรคพาร์กินสันอย่างไร?
เนื่องจากสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดโรคพาร์กินสันยังไม่ทราบชัดเจน ดังนั้นการป้องกันเต็มร้อยจึงเป็นไปไม่ได้ แต่บางการศึกษาพบว่า การกินอาหารมีประโยชน์ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม โดยจำกัดอาหารกลุ่มไขมันและเนื้อแดง (เนื้อของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม) จำกัดอาหารในกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม กินผัก ผลไม้เพิ่มขึ้นให้มากๆเนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง อาจช่วยลดโอกาสเกิดอาการ หรือ ลดความรุนแรงจากอาการของโรคนี้ลงได้บ้าง
อาหารเสริมสำหรับผู้เป็นพาร์กินสัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น