วันเสาร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

กรดยูริคสูงเชื่อมโยงกับโรคเก๊าต์และโรคเบาหวาน (Uric acid)

กรดยูริค (Uric acid) เป็นสารเคมีที่อาจสะสมในเลือดจนสูงกว่าระดับปรกติ และจะนำไปสู่โรคเก๊าต์ได้ เมื่อเร็วๆ นี้ นายแพทย์ Eric Matteson หัวหน้าหน่วย รูมาติกวิทยา แห่ง Mayo gdkClinic ในเมือง Rochester รัฐมินนิโซตา กล่าวว่า “ผู้คนจำนวนมากไม่ได้ควบคุมระดับกรด ยูริค และไม่เคยกังวลและไม่สนใจเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตราบใดที่เขาไม่มีอาการ
แต่ปัจจุบันมีงานวิจัยที่แสดงว่า ระดับสูงของกรยูริคในเลือดมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเกือบ 20% ที่จะวิวัฒนาเป็นโรคเบาหวาน และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นกว่า 40% ที่จะวิวัฒนาเป็นโรคไต ในการวิจัยครั้งใหม่นี้ ทีมนักวิจัยได้ศึกษาทะเบียนประวัติของผู้ป่วยโรคเก๊าต์จำนวน 2,000 ราย ในฐานข้อมูลขององค์การทหารผ่านศึกในสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เป็นโรคเบาหวาน หรือโรคไต เมื่อแรกเริ่มวิจัย

นายแพทย์ Eswar Krishnan ผู้ช่วยศาสตราจารย์หน่วยรูมาติกวิทยา แห่งมหาวิทยาลัย Stanford ได้นำเสนอผลจากการศึกษาวิจัยดังกล่าว ณ การประชุมวิชาการประจำปีของวิทยาลัยรูมาติกอเมริกัน (American College of Rheumatology) โดยนายแพทย์ผู้นี้เป็นที่ปรึกษาของ บริษัท Takeda Pharmaceuticals International ผู้ผลิตยาโรคเก๊าต์ และให้การสนับสนุนทางการเงินในการวิจัยครั้งนี้

ในช่วงระยะเวลา 3 ปี เขาพบว่า 9% ของชายที่ป่วยเป็นโรคเก๊าต์ ซึ่งไม่ได้ควบคุมระกรดยูริค ได้วิวัฒนาเป็นโรคเบาหวาน เปรียบเทียบกับ 6% ของผู้ป่วยที่ควบคุมระดับกรดยูริค หลังจากพิจารณาปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ สำหรับโรคเบาหวาน ผลวิจัยนี้ตรงกับความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานที่สูงขึ้น 19% ในผู้ป่วยที่มิได้ควบคุมระดับกรดยูริค กรดยูริคในเลือดที่มีระดับสูงกว่า 7 ถือว่ามิได้มีการควบคุม

นายแพทย์ Eric Matteson กล่าวว่า ความเสี่ยงของแต่ละบุคคลอาจมี [ผลกระทบ] ไม่มาก แต่ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (National Institute of Health) ประมาณการว่า ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 6 ล้านคนเคยป่วยเป็นโรคเก๊าต์ ณ ขณะใดขณะหนึ่งในช่วงชีวิต และส่วนใหญ่มิได้ควบคุมระดับกรดยูริค จึงพอจะอนุมาน ได้ว่า ชาวอเมริกันหลายหมื่นคนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน และโรคไต

ทีมนักวิจัยยังได้ศึกษาครั้งที่สอง โดยใช้ฐานข้อมูลเดียวกัน ที่แสดงว่า ในช่วงเวลา 3 ปี ชายผู้ป่วยเป็นโรคเก๊าต์ และไม่ได้ควบคุมระดับกรดยูริค มีความสูงขึ้น 40% ที่จะเป็น โรคไตเมื่อเปรียบเทียบกับชายที่ควบคุมระดับกรดยูริค อย่างไรก็ตาม การวิจัยนี้ มิได้พิสูจน์ว่า ระดับกรดยูริคที่ไม่ได้ควบคุม จะเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพ แต่แสดงความสัมพันธ์ถึงปัญหาสุขภาพที่เพิ่มขึ้น

นายแพทย์ Eric Matteson กล่าวว่า “[ที่ผ่านมา] โรคเก๊าต์มักได้รับการบำบัดรักษาไม่เพียงพอ แต่ปัจจุบันเราเริ่มพบว่า แม้จะไม่ได้เป็นโรคเก๊าต์ กรดยูริคที่เพิ่มขึ้นมีความสัมพันธ์กับอัตราที่สูงขึ้นของอาการหัวใจล้ม (Heart attack) กลุ่มอาการจากการสันดาปพลังงานของร่างกายผิดปกติ (Metabolic syndrome) โรคเบาหวาน (Diabetes) และแม้เต่ความตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจ (Cardiovascular disease)

อย่างไรก็ตาม เขาแนะนำให้ควบคุมระดับกรดยูริคด้วยการควบคุมอาหาร หรือกินยา และสิ่งสำคัญที่สุดคือการรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม ในขณะที่โรคอ้วนเป็นปัจจัยเสี่ยงในทุกภาวะดังกล่าว

แม้ได้มีการนำเสนอผลการค้นพบเหล่านี้ ในการประชุมทางการแพทย์ดังกล่าวข้างต้น แต่ควรตระหนักว่า การวิจัยนี้เป็นเพียงเบื้องต้นเท่านั้น เพราะยังไม่ได้ผ่านกระบวนการ ตรวจสอบโดยเพื่อนร่วมวิชาชีพ (Peer review) ซึ่งผู้เชี่ยวชาญภายนอกจะต้องพินิจพิเคราะห์ข้อมูลให้ละเอียดลออก่อนจะได้ลงตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ต่อไป

ขอบคุณ : http://haamor.com


Herbraga


0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น