ในรายที่เป็นมากโดยทั่วไปผู้ป่วยมักทราบอยู่แล้วว่าตนเองมีป่วยเป็นภูมิแพ้ผิวหนังมักต้องไปรับยาทาอยู่บ่อยๆ หรือพยายามลองซื้อยาทามาทาเอง
-ในรายที่เป็นไม่มากไม่รู้ตัวนั้น มักพบลักษณะผิวแห้งคัน ระคายเคืองได้ง่าย สีผิวไม่สม่ำเสมอ ขนคุดที่ต้นแขน อาการเป็นไม่มากก็ให้เกิดเพียงความรำคาญเป็นๆ หายๆ รายละเอียดเกี่ยวกับอาการการวินิจฉัยและการดูแลตนเองของโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
อาการภูมิแพ้ผิวหนัง ในผู้ใหญ่
-ลักษณะอาการสำคัญของโรคภูมิแพ้ผิวหนังคืออาการคันค่ะ และก็มีผื่นแห้งแดงเป็นสะเก็ดโดยเฉพาะบริเวณข้อพบในผู้ใหญ่ ซึ่งอาการเหล่านี้มักเป็นมาอย่างเรื้อรัง อาการประกอบอื่นๆ ที่ช่วยในการวินิจฉัยเช่น
-ผิวแห้ง
-มีกลากน้ำนม หน้าตาจะเป็นผื่นสีอ่อนกว่าสีผิวมักพบที่แก้มค่ะ
-ใต้ตาคล้ำ เป็นรอยพับจากการคันตาขยี้ตาบ่อยๆ ดังภาพค่ะ บ่อยๆนะคะที่หมอพบคนไข้มาหาด้วยปัญหารอบตาคล้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่รู้ตัวว่าตเองเป็นภูมิแพ้ผิวหนัง ซึ่งในเคสเช่นนี้การทำให้ผิวรอบตาดีขึ้นส่วนหนึ่งคือการควบคุมอาการภูมิแพ้ค่ะ เพราะเมื่อเรามีอาการภูมิแพ้กำเริบมักจะเผลอขยี้ตาไม่รู้ตัว ทำซ้ำๆเกิดเป็นการอักเสบผิวก็บากเจ็บ ช้ำ ดำ ค่ะ
-เป็นขนคุด จะเป็นผื่นตุ่มๆตามรูขุมขนบริเวณต้นแขน ดูคล้ายๆขนลุก ลูบต้นแขนแล้วสาก บางครั้งก็มีอาการคันค่ะ
-มีผื่นแพ้คันเคืองที่มือง่ายเป็นบ่อยๆ หรือผื่นผิวหนังอักเสบคัน ผิวแพ้ง่าย
-มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคในกลุ่มภูมิแพ้โรคใดก็ได้ดังนี้ โรคภูมิแพ้ผิวหนัง หอบหืด ภูมิแพ้ที่จมูก
ภูมิแพ้ผิวหนัง หายขาดไหม ?
-ปัจจุบันยังไม่มีการรักษาให้หายขาดสำหรับภูมิแพ้ผิวหนังค่ะ แต่อาการสามารถควบคุมไม่ให้กำเริบได้ และโดยทั่วไป เมื่ออายุมากขึ้นอาการมักดีขึ้นค่ะ
การรักษาภูมิแพ้ผิวหนัง
-ในหัวข้อนี้หมอจะขอกล่าวถึงภาพรวมโดยกว้างๆนะคะ เพราะแต่ละเคสจะมีรายละเอียดการรักษาไม่เหมือนกัน โดยควรอยู่ใการดูแลของคุณหมอผิวหนังค่ะ โดยหมอจะขอเน้น ในส่วนของการปฏิบัติตัวซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการรักษา
และบางครั้งเวลาที่เราไปพบคุณหมออาจไม่มีโอกาสได้ลงถึงรายละเอียดในส่วนนี้ค่ะ โดยทั่วไปการรักษาหลักเมื่ออาการกำเริบจะเป็นการทายาสเตียรอยด์
-ซึ่งมีความเข้มข้นแตกต่างกัน ขึ้นกับสภาพผิว อายุ ความรุนแรงของอาการ และบริเวณที่ต้องการทำการรักษา ส่วนยาทาลดการอักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น protopic , Elidel มีราคาแพงกว่ายาสเตียรอยด์ เป็นอีกตัวเลือกเพื่อลดการใช้ยาทาสเตยรอยด์ การรับประทานโปรไบโอติก มีงานวิจัยว่าการรับประทานโปรไบโอติกอาจช่วยลดอาการภูมิแพ้ผิวหนังได้ อีกตัวที่ช่วยบรรเทาอาการคันคือยารับแก้แพ้ในกลุ่ม Antihistamine
นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว การปฏิบัติตัวเป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เพราะหากปฏิบัติตัวได้ถูกต้องแล้ว จะสามารถลดการกำเริบของโรค และลดความจะเป็นในการใช้ยาทาสเตียรอยด์ ได้ค่ะ
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ผิวหนัง
-หลักกว้างๆ ของการปฏิบัติตัวคือการเลี่ยงสิ่งกระตุ้นภาวะภูมิแพ้ และเพิ่มความชุ่มชื้นซึ่งเป็นเกราะของผิวค่ะ ข้อปฏิบัติตัวต่างๆ เหล่านี้ นอกจากเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่เป็นภูมิแพ้ผิวหนังแล้ว ยังสามารถนำไปใช้ได้สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งด้วยค่ะ
สิ่งที่ควรเลี่ยงสำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง
-อากาศที่เปลี่ยนแปลงมากๆ เช่นร้อนจัด หนาวจัด แห้งจัด ถ้าเลี่ยงไม่ได้เช่นต้องไปต่างประเทศที่อากาศแห้งจัดหนาวจัดก็ต้องมีการเตรียมตัวเตรียมหยูกยาไปค่ะเพราะมีโอกาสที่ภูมิแพ้ผิวหนังจะกำเริบ หรือการอาบน้ำร้อนมาก เปิดแอร์เย็นจัด
-เลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว พยายามเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ระบุไว้ว่าเป็นสูตรอ่อนโยนเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอม เพราะน้ำหอมก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการแพ้ที่พบได้บ่อยค่ะ
-เลี่ยงเสื้อผ้าเนื้อหยาบ ผ้าขนสัตว์ ผ้าใยสังเคราะห์ เพราะเวลาเสียดสีผิวหนังจะทำให้เกิดการระคายเคืองคันค่ะ เช่นชุดผ้าใยสังเคราะห์รัดๆเนี่ยะเวลาใส่ก็จะทำให้คันได้ ใช้ผ้าฝ้ายที่ตัดเย็บโปร่งสบายก็จะช่วยให้สบายตัวกว่าค่ะ
-เลี่ยงสถานที่ที่มีฝุ่น เช่น บริเวณที่กำลังมีการก่อสร้าง
-เลี่ยงละอองเกสรดอกไม้เช่นทุ่งสวนดอกไม้
-เลี่ยงความเครียดความวิตกกังวล อารมณ์หงุดหงิด
-พักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้ผื่นกำเริบได้
-เลี่ยงการเกาเวลาที่คัน เพราะจะทำให้เกิดการติดเชื้อแบคทีเรียที่ผื่นได้ และการเกายังเป็นการกระตุ้นวงจรการอักเสบ เรียกว่ายิ่งเกาก็ยิ่งคันค่ะ
-เลี่ยงนมไข่ถั่วอาหารทะเล 20%ของผู้เป็นโรคภูมิแพ้ผิวหนัง มีสาเหตุจากการแพ้อาหารที่พบบ่อยเหล่านี้ สังเกตุอาหารที่ตนเองแพ้และพยายามหลีกเลี่ยงเช่น นม ไข่ อาหารทะเล
-เลี่ยงการอาบน้ำร้อนเพราะจะทำให้ผิวแห้งมากขึ้น
-เลี่ยงการอาบน้ำบ่อย เลี่ยงการฟอกสบู่มาก บริเวณผิวที่แห้งคันบ่อยเช่นแขนขา ถ้าไม่มีกิจกรรมที่สกปรกเลอะเทอะ ไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ล้างด้วยน้ำเปล่า ฟอกสบู่เป็นครั้งคราวก็เพียงพอ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิว ไม่อาบน้ำใช้เวลานานหรือแช่น้ำ
-การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำอาจทำให้ผิวระคายเคืองจากคลอรีนได้ ป้องกันได้โดยการใช้โลชั่นให้ความชุ่มชื้นทาผิวหลังอาบน้ำล้างตัว
-หลายอย่างที่ต้องหลีกเลี่ยงเป็นเรื่องของพฤติกรรมค่ะ บางครั้งจึงต้องใช้ความเข้าใจ และการฝืนใจเพื่อการรักษาที่ได้ผลไม่ให้โรคกำเริบ อย่างใครที่ผิวระคายเคืองง่ายเพราะคลอรีน ถ้ายังชอบว่ายน้ำเป็นประจำก็จะทำให้ปัญหาผิวแห้งระคายเคืองเป็นเรื้อรังต้องใช้ยาทาอยู่เรื่อยๆหรืออีกตัวอย่างที่พบได้บ่อยก็ ใครที่กำลังต่อเติมบ้านก็มักพบอาการภูมิแพ้กำเริบได้
ในผู้ที่เป็นภูมิแพ้ควรเลี่ยงฝุ่นละอองเพราะทำให้ระคายเคืองได้ แม้แต่กวาดบ้านถ้าเป็นไปได้ก็ควรให้คนอื่นทำแทน งานที่ต้องสัมผัสน้ำและสารซักฟอกบ่อยๆ เช่นซักผ้าล่างจานก็ควรเลี่ยงเพราะผู้ที่เป็นภูมิแพ้มีโอกาสเกิดผิวหนังอักเสบที่มือได้บ่อย?
ข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้ป่วยภูมิแพ้ผิวหนัง
-ล้างผงซักฟอกและน้ำยาปรับผ้านุ่มให้สะอาดเวลาซักผ้าเนื่องจาก สารเคมีที่ตกค้างในเสื้อผ้าจะทำให้เกิดการระคายเคืองกับผิวได้
-ตัดเล็บสั้น
-ทาโลชั่นให้ความชุ่มชื้นผิวเป็นประจำโดยเฉพาะหลังอาบน้ำ
-เพื่อป้องกันไรฝุ่นในที่นอนควรซักเครื่องนอนทุก 1-2 สัปดาห์
-เรื่องการทาโลชั่น เป็นสิ่งสำคัญมากค่ะ เวลาหมอตรวจคนไข้โรคภูมิแพ้ ถ้าลูบผิวไปไม่ทาโลชั่นจนเหนอะ ถือว่ายังไม่พอ โลชั่นที่เลือกใช้ควรเป็นแบบเหนียวข้นเพราะจะให้ความชุ่มชื้นและกักเก็บน้ำในผิวได้ดี ทาได้บ่อยๆค่ะ ถ้าผิวเริ่มแห้งสากก็ทาซ้ำได้เลย และควรเลือกเป็นแบบไม่มีน้ำหอม ไม่ระคายเคืองค่ะ โลชั่นให้ความชุ่มชื้นถือเป็นยาในการรักษาภูมิแพ้ผิวหนังอย่างหึ่งเลยทีเดียว
ขอบคุณ : http://www.milinclinic.com/dermatologic-disease/6353271
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น