“ภูมิแพ้ขึ้นตา” หรือ “เยื่อบุตาอักเสบ” อาการแพ้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของดวงตา เปลือกตา หนังตา เยื่อบุตา ท่อน้ำตา และต่อมน้ำตา ก็ได้ แต่โดยส่วนมากที่พบจะเกิดขึ้นที่เยื่อบุตาขาว นอกจากนี้อาจมีอาการแพ้ที่จมูกร่วมด้วยเนื่องจากเนื้อเยื่อจมูกและตาเป็นผืนเดียวกันคะ
-อาการของโรคภูมิแพ้ขึ้นตา มีได้ตั้งแต่อาการเล็กน้อย ไปจนถึงขั้นรุนแรง อาการที่บอกได้ชัดเจนว่าแพ้ ไม่ว่าจะเกินขึ้นส่วนในของร่างกายก็คืออาการคัน โรคภูมิแพ้ขึ้นตาจะมีอาการคันตามากๆ อาจมีการบวมของเปลือกตาหรือหนังตาร่วมด้วย มีขึ้ตาเยอะ โดยเฉพาะเวลาที่ตื่นนอนตอนเช้า ซึ่งขี้ตาจะมีลักษณะสีขาวขุ่น หรือสีเหลืองอ่อนๆ หากขี้ตาเป็นสีเขียวแสดงว่ามีการติดเชื้อของดวงตาร่วมด้วย บริเวรเยื่อบุตาขาวจะเป็นสีแดงเรื่อๆจนถึงแดงจัด มีอาการปวดตา เปลือกตาบวม หากแพทย์จะทำตรวจตาก็จะพบตุ่มเล็กๆ บริเวณเยื่อบุตาด้านใน หากอาการรุนแรงทำให้ผู้ป่วยมองเห็นไม่ชัด ตามั่ว กระจกตาเป็นแผล และที่ร้ายแรงคืออาจทำให้ตาบอดได้คะ
การดูแลผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ขึ้นตา
-การดูแลผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ขึ้นตา ก็ไม่แตกต่างกับโรคภูมิแพ้ชนิดอื่น คือต้องสังเกตุว่าแพ้อะไร สิ่งใดทำให้อาการภูมิแพ้หนักขึ้น เช่น ทานอาหารทะเล ไปเที่ยวสวนดอกไม้ เป็นต้น หากเราทราบว่าแพ้สิ่งใดก็ให้หลีกเลี่ยงสิ่งนั้น อาการของโรคก็จะไม่กำเริบหรือถ้าเป็นอยู่อาการก็จะไม่รุนแรงคะ เมื่อมีอาการคันตาก็ไม่ควรเกา หรือขยี้ตา เพราะจะทำให้อาการแพ้ทวีความรุนแรงขึ้น อาจจะใช้น้ำสะอาด น้ำตาเทียม หรือน้ำเกลือล้างตา เพื่อกำจัดสารก่อภูมิแพ้ออกจากดวงตา แล้วให้นำผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นมาประคบบริเวณเปลือกตา เป็นพักๆ หากอาการไม่ดีขึ้นควรไปพบจักษุแพยท์เพื่อทำการวินิฉัยว่าเป็นภูมิแพ้รุนแรงขั้นไหน แพทย์อาจจะสั่งให้ใช้น้ำตาเทียม หยอดยาแก้แพ้ที่ตา ยาแก้แพ้หรือยาแก้อักเสบ ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละบุคคล การรักษาโรคภูมิแพ้ใช้เวลานานหลายปี ต้องติดตามดูอาการอย่างต่อเนื่อง ปฏิบัติตามคำแนะนำของจักษุแพทย์ และมาพบแพทย์ตามเวลานัดด้วยนะคะ
การรักษาโรคภูมิแพ้ขึ้นตา
-ยา ที่ใช้หยอดตาสำหรับรักษาอาการภูมิแพ้นั้นมีตั้งแต่ น้ำตาเทียมแบบไม่มีสารกันเสียช่วยชำละล้างสารก่อภูมิแพ้ เหมาะสมหรับคนที่มีอาการแรกเริ่ม ยาที่ออกฤทธิ์ต้านฮีสตามีน จะช่วยยับยั้งการปล่อยสารก่อภูมิแพ้ทำให้อาการบวม คันตา ลดน้อยลง ยาหยอดตาในกลุ่มสเตียรอยด์ เป็นยาชนิดสุดท้ายที่แพทย์จะแนะนำให้ใช้ เนื่องจากผลข้างเคียงที่ค่อนข้างมากหากต้องใช้ยาติดต่อกันนานอาจทำให้เกิดต้อหินได้
นอกจากการรักษาด้วยยาแล้ว ก็ยังมีวิธีรักษาอื่นๆ เช่น เน้นการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ด้วยการออกกำลังกายเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เหมาะสม ก็จะทำให้ร่างกายแข็งแรง ไม่เกิดอาการแพ้ขึ้นง่ายๆ
โรคภูมิแพ้ที่ตา
โรคภูมิแพ้ที่ตาเป็นโรคที่พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ โดยเฉพาะในเขตเมืองใหญ่ๆ หรือเขตชุมชนที่มีผู้คนอาศัยกันหนาแน่น ทั้งมลภาวะจากสิ่งแวดล้อม ควันบุหรี่ ควันจากท่อไอเสียและจากโรงานอุตสาหกรรม ละอองฝุ่นในอากาศ เป็นตัวกระตุ้นให้โรคภูมิแพ้กำเริบได้ทั้งนั้น แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดอาการภูมิแพ้ที่ตาควรหลีกเลี่ยงการซื้อยาหยอดตามาใช้เอง เพราะอาจก่อให้เกิดผลเสียมากว่าผลดี ควรปรึกษาจักษุแพทย์จะเป็นวิธีดีที่สุดคะ ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญในการดำรงชีวิตเรา มาดูแลดวงตาคู่นี้กันเถอะคะ
ขอบคุณ : http://clinicherbs.com/conjunctivitis
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น