วันอังคารที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2561

9 เหตุผลง่าย ๆ ที่ทำให้เราอ้วน (เลิกซะนะ)

หลายๆ สงสัยว่า ทำไมเราก็กินน้อยแล้วนะ ทำไมถึงยังอ้วนอยู่ หลายๆคนคิดแบบนั้น แต่หารู้ไม่ว่าพฤติกรรมเหล่านี้ซื้อเป็นพฤติกรรมที่หลายๆคนยังติดอยู่ซึ่งนำพาไปสู่ความอ้วนไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง


1. เสียดาย

 "กินไม่หมดเหรอ? ทำไมไม่กิน? มาเอามา...ฉันกินเอง เสียดายของ" พฤติกรรมแบบนี้ใช่คุณรึเปล่า ถ้าใช่ ก็เลิกเสียเถอะ เพราะนี่คือหนึ่งในสาเหตุทำให้คุณกินอาหารเกินกว่าร่างกายต้องการ อยากหุ่นดี กินพอดีพออิ่มดีกว่า

 2. กลัวหิว

เห็นอาหารละลานตา น่ากินมาก สมองสั่งการปุ๊ปเลยว่าควรซื้อกลับไปใส่ตู้เย็นไว้ดีกว่า เผื่อว่าเกิดรู้สึกหิวจะได้มีอะไรกิน ฉลาดคิดดีมาก แต่ถ้าทำแบบนี้จนติดเป็นนิสัย คุณไม่มีทางลดน้ำหนักหรือขจัดไขมันออกไปจากตัวได้ เพราะส่วนใหญ่ ถ้ารู้ว่ามีของชอบอยู่ในตู้เย็นก็อดใจไม่ไหว สุดท้าย ก็จะจัดการเสียจนเกลี้ยงตู้ก่อนจะหิวจริง ๆ ทุกที

 3. กินจุบจิบทั้งวัน

อย่าคิดว่าอาหารบางชนิดกินแล้วไม่ทำให้อ้วน เพราะหากกินมากเกินปริมาณ ใครจะรู้ว่าร่างกายเราจะสามารถย่อยหรือเผาผลาญได้ทันหรือไม่ พฤติกรรมตามใจปาก หยุดกินไม่ได้ มีผลโดยตรงทำให้อ้วนง่าย เห็นผลเร็วมาก ทางที่ดีควรหักห้ามใจ ฝึกตัวเองให้กินเป็นเวลา อย่าหลงระเริงเพลิดเพลินไปกับการลิ้มรสจนมากเกินไป ควรกินให้อิ่มในมื้ออาหาร หากรู้สึกหิว หรืออยากกิน ให้แก้ด้วยการดื่มน้ำแทนและอย่าลืมลดปริมาณลงให้เหมาะสม

 4. กินไม่ขยับ

หนุ่มสาวออฟฟิศดูจะน่าเป็นห่วงที่สุด เพราะเดี๋ยวนี้อากาศมันร้อนสุดทนจนไม่อยากไปไหน ข้าวเช้าข้าวเที่ยงก็ห่อมานั่งกินกันที่โต๊ะทำงานนั่นแหละ กินเสร็จก็นั่งแช่ แชทบ้าง คุยโทรศัพท์บ้าง วันทั้งวันร่างกายแทบไม่ได้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวอะไรเท่าไหร่ เมื่อร่างกายไม่เกิดการเผาผลาญแล้วจะไม่ให้ไขมันสะสมได้อย่างไร

 5. อดอาหาร

การอดจะยิ่งทำให้ลดความอ้วนได้ยากเพราะระบบภายในร่างกายจะรวน โดยเฉพาะจะเกิดผลกระทบร้ายแรงต่อระบบเผาผลาญ ระดับฮอร์โมนทั้งหลายเกิดการเปลี่ยนแปลง เรียกว่าเป็นส่วนเสริมกำลังให้การลดน้ำหนักของคุณเป็นไปได้ยากมาก ๆ เช่น อดใจไม่กินมื้อเย็น แต่สุดท้ายก็ไปตบะแตกตอนกลางคืนจนได้ แถมยังกินหนักกว่าเดิม หรือหากงดมื้อเช้าก็จะทำให้ร่างกายไม่มีพลังงานเพียงพอ จะรู้สึกเพลียตลอดทั้งวัน เลิกเถอะ เพราะวิธีนี้คุณจึงอ้วนอยู่นั่นเอง

 6. ติดเครื่องดื่มแคลอรี่สูง

อยากกินอะไรหวาน ๆ เย็น ๆ ประเภทน้ำอัดลม น้ำหวาน ชาไข่มุก น้ำผลไม้ ฯลฯ ยิ่งอากาศร้อน ๆ ต้องเบิ้ลกันหลายแก้วถึงจะชื่นใจ ดับกระหาย จินตนาการว่ากินแล้วกระปรี้กระเปร่า แต่รู้หรือเปล่าว่าน้ำตาล + แคลอรี่สูงปรี๊ด กินแล้วอ้วนไม่เหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักทั้งปวง


 7. โปรดปรานอาหาร Junk Food

หมายถึงอาหารที่ไม่ค่อยมีคุณค่าทางโภชนาการและให้พลังงานสูง เช่น เบอร์เกอร์ ไก่ทอด มันฝรั่งทอด ฮอทด็อก พิซซ่า โดนัท ฯลฯ หากติดใจในความอร่อยลิ้นก็ควรกินในปริมาณน้อย แต่หากต้องการมีสุขภาพที่ดี รวมถึงมีรูปร่างที่สมส่วน ก็ควรเลิกกินไปเลยดีที่สุด

 8. เครียด

มีผลทำให้อ้วนขึ้นได้โดยเฉพาะหน้าท้อง เพราะภาวะเครียดร่างกายจะหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งก็คือความเครียด ยิ่งร่างกายกระตุ้นให้เกิดความเครียดมากขึ้นเท่าไร ต่อมหมวกไตจะยิ่งเพิ่มการผลิตของคอร์ติซอล เพราะอย่างนี้ไงไขมันหน้าท้องจึงพอกพูนเป็นห่วงยาง รู้อย่างงี้ก็รีบหาวิธีคลายเครียดด่วน

 9. มองข้ามการเผาผลาญแคลอรี่

ทำมาแทบจะทุกวิธี ยกเว้นการเผาผลาญแคลอรี่ คุณไม่มีทางลดน้ำหนักได้สำเร็จ เพราะการเผาผลาญคือการกำจัดส่วนเกินออกไป แค่ขยับก็เท่ากับเผาผลาญ การออกกำลังที่ถูกต้อง จะช่วยเพิ่มอัตราเผาผลาญได้ราว 10 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงการยกน้ำหนักก็เป็นการเพิ่มมวลกล้ามเนื้อ ยิ่งคุณมีกล้ามเนื้อมากเท่าไรก็จะยิ่งเผาผลาญแคลอรี่ได้มากเท่านั้น


รูปร่างเปลี่ยนได้ด้วยการปรับพฤติกรรมประจำวัน โดยเริ่มที่ตัวเอง ต้องตั้งใจจริงซึ่งทำได้ไม่ยาก

การกินอาหารเพื่อให้รูปร่างสมส่วนนั้นมีกันอยู่หลายวิธี แต่ที่สำคัญจริง ๆ ก็คือกินอาหารให้ครบหลักโภชนาการทั้ง 5 หมู่ และควรทานในปริมาณที่เหมาะสม พักผ่อนให้เพียงพอ ถ้านอนไม่พอแม้จะรู้สึกบันเทิงเริงใจแค่ไหน แต่ร่างกายจะคิดว่ากำลังเครียดและหลั่งคอร์ติซอล (ฮอร์โมนความเครียด) ออกมาในปริมาณสูง ซึ่งส่งเสริมการสะสมไขมันที่หน้าท้อง และนั่นอาจทำให้เสี่ยงต่อสุขภาพ

สรุปสั้น ๆ ว่ากินให้ดี นอนให้พอ แล้วระบบเผาผลาญก็จะทำหน้าที่อย่างดีเอง


ขอบคุณที่มา :  https://health.kapook.com/view64564.html

อ้วน Herbraga

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น